




Mr Saran
makkasanpittya school bangkok


เห็นนางฟ้า
จำแนกประเภทของเห็ด
1. กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นอาหาร เป็นเห็ดที่มีคุณค่า และมีส่วนประกอบของ สารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตีนและวิตามิน ได้แก่ เห็ดฟาง , เห็ดนางฟ้า , เห็ดหูหนู เป็นต้น
2. กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นยาสมุนไพร เพราะเชื่อว่ามีสารที่เป็นสรรพคุณทางยา ได้แก่
เห็ดหลินจือ (เห็ดพันปี)รับประทานแล้วจะเป็นยาบำรุงกำลังทำให้สุขภาพแข็งแรง
เห็ดหอม รับประทานแล้วจะช่วยบำบัดโรคบางชนิดได้ เช่น ต้านโรคมะเร็ง , ต้านไวรัส ช่วยลดความดันโลหิตและลดโคเรสเตอรอล เป็นต้น
3. กลุ่มเห็ดที่เป็นพิษดกลุ่มนี้ถ้าบริโภคเข้าไปจะมีพิษ ถ้าบริโภคมากอาจถึงตาย เพราะพิษจะเข้าไปในระบบเลือด กระจายไปทั่วร่างกายมึนเมาอาเจียน เช่น เห็ดระโงกหิน
ชนิดของเห็ด
-
เห็ดหอม หรือ เห็ดชิตาเกะ เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้น เลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย และมีกรดอะมิ โนถึง 21 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2สูงพอๆ กับยีสต์ มีวิตามินดีสูง ช่วย บำรุงกระดูกและมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยัง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็ง แรง ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้หวัดชาว จีนยกให้้เห็ดหอมเป็็นอาหารต้้นตำรับ “อมตะ”
-
เห็ดหูหนู เป็นกลุ่ม ของคาร์โบไฮเดรต สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ ภูมิต้านทานร่าง กายดี ขึ้น รว มทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง เห็ดหู หนูขาวช่วยบำรุงปอดและไต
-
เห็ดหลินจือ มีสารสำคัญ เช่น เบต้ากลูแคน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง คนญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและ โรคผู้สูงอายุเช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และโรคความดันโลหิต สูง
-
เห็ดกระดุม หรือ เห็ดแชมปิญองรูปร่างกลมมน คล้ายกระดุมที่มี ขนาดใหญ่ ผิวเนื้อนวล มี ให้เลือกทั้งแบบสด หรือบรรจุกระป๋อง มีบทบาทในการ รักษาและป้อง กันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่ สุดโดยสารบางอย่างในเห็ด นี้จะ ไปช่วยยับยั้งเอนไซม์อะโรมาเตส ทำให้เกิดการยับยั้งการเปลี่ยนฮอร์โมนเอนโดร เจนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เมื่อร่างกาย ผลิต ฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง ก็ลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้ น้อยลงตามไปด้วย
-
เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าและเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดสาม อย่างนี้อยู่ในตระกูลเดียวกัน เจ ริญเติบโตเป็นช่อ ๆคล้ายพัด เห็ดนางรมมีสี ขาวอมเทา เห็ดนางฟ้ามีสีขาวอมน้ำตาล ขณะที่เห็ดเป๋าฮื้อจะมีสีคล้ำ และเนื้อ เหนียวหนานุ่ม อร่อยคล้ายเนื้อสัตว์มากกว่า เชื่อว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนของเลือด และโรคกระเพาะ
-
เห็ดฟาง เป็นเห็ดยอดนิยม ของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้าว ชื้น ๆ โคน มี สีขาว ส่วนหมวกมีสี น้ำตาลอมเทา หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ให้ วิตามินซีสูง และ มีกรดอะ มิโน สำคัญอยู่หลายชนิดหากรับประทาน เป็นประจำจะช่วยเสริม ภูมิคุ้มกันการ ติด เชื้อต่างๆ อีก ทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตและเร่งการสมานแผล
-
เห็ด เข็มทอง เป็นเห็ดสีขาวหัวเล็ก ๆ ขึ้นติดกัน เป็นแพ รส ชาติเหนียวนุ่ม นำมา รับประทานแบบสดๆ ใ ส่ กับสลัด ผักก็ ได้ ถ้าชอบสุกก็ นำ ไปย่าง ผัดหรือลวก แบบ สุกี้ ถ้ากินเป็นประจำ จะช่วยรักษาโรคตับโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ เรื้อรัง
-
เห็ดโคน ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิดแก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่า น้ำที่สกัดจากเห็ด โคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด เช่นเชื้อไทฟอยด์
ประโยชน์ของเห็ด
เห็ดที่นักวิทยาศาสตร์นิยมเอามาวิเคราะห์ว่ามีสรรพคุณทางยานั้นส่วนใหญ่เป็น เห็ด ชนิดที่คนมักนำมาปรุงอาหารและหาได้ง่าย เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม เห็ด กระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าเห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดหู หนู และ เห็ดหลินจือ อีกทั้งผลการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าเห็ดแชมปิญอง มี บทบาทช่วยในการรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด เมื่อเทียบกับ เห็ดรับประทานได้ชนิดอื่นๆโดยสารบางอย่างในเห็ดชนิดนี้ไปช่วย ยับยั้งเอ็นไซ ม์ aromatase ทำให้เกิดการยับยั้งการแปรฮอร์โมนแอนโดรเจนให้กลายเป็นเอสโต รเจนในผู้หญิง วัยหมด ประจำเดือน เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อย ลง ก็ลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วย และใน ประเทศญี่ปุ่นได้มีการทดลองนำเห็ดหอมมาสกัด พบว่าในเห็ดหอม ให้น้ำตาล โมเลกุลขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า เบต้ากลูแคน ถึง 2 ชนิด ได้แก่ lentinan และ LEM (Lenti nula edodes mycelium) ซึ่งช่วยทำหน้าที่ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อ และชะลอการแพร่กระจายของเซลล์ มะเร็ง ซึ่งในการทดลองให้สาร lentinan กับผู้ป่วยมะเร็งร่วมกับการทำเคมี บำบัดก็พบว่าก้อนมะเร็งมีขนาดลดลง และอาการข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดก็ เกิดขึ้นน้อยลงด้วย เห็นความอัศจรรย์ของพืชตระกูลต่ำหรือยังคะ ไม่ได้ด้อย ประโยชน์เหมือนทีโดนกล่าวหาเลย
การเพราะเห็ดนางฟ้า
วัสดุอุปกรณ์ในการเพาะเห็ดนางฟ้า
>วัสดุเพาะ เช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา อาหารเสริม
>แม่เชื้อเห็ดชนิดที่ต้องการ
>ถุงพลาสติกทนร้อนขนาด 6 3/4 x 12 1/2 หรือ 8x12 นิ้ว
>คอขวดพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 1/2 นิ้ว
>สำลี ยางรัด
>ถังนึ่งไม่อัดความดัน หรือหม้อนึ่งความดัน
>โรงเรือนหรือที่บ่มเส้นใย
การเตรียมวัสดุเพาะจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา
ส่วนมากจะใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพารา หรือขี้เลื่อยไม้เบญจพรรณ หรือใช้ฟางข้าวก็ได้ ตามฟาร์มเห็ดทั่วไปแล้วเพื่อความสะดวกในการหมักและผสมวัสดุจึงนิยมใช้ขี้ เลื่อยไม้ยางพารา ซึ่งเป็นขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อนและมีสารอาหารที่มีคุณค่าในการเพาะเห็ดมาก
อัตราส่วนในการผสมวัสดุอื่นๆ
ขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม
รำละเอียด 6 กิโลกรัม
ปูนขาว 1 กิโลกรัม
ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม
ยิปซัม 0.2 กิโลกรัม
น้ำสะอาด 60-70 %
สูตรที่ 2
ขี้เลื่อยไม้ยางพาราแห้ง 100 กิโลกรัม
รำละเอียด 5 กิโลกรัม
ยิปซัม 0.2 กิโลกรัม
ปูนขาว 1 กิโลกรัม
ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม
ปรับความชื้นของวัสดุเพาะประมาณ 60-65 %
วัสดุทั้งหมดนี้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมได้เมื่อชั่งหรือตวงวัสดุ ทั้งหมดแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน และหมั่นตรวจดูความชื้นบ่อยๆ เพื่อไม่ให้วัสดุเปียกแฉะจนเกินไป ซึ่งจะทำให้มีผลในการทำให้เชื้อเห็ดไม่เดิน
วิธีการเตรียมวัสดุเพาะ
นำส่วนผสมดังกล่าวข้างต้น ผสมให้เข้ากันด้วยมือหรือเครื่องผสมแล้วปรับความชื้น 60-65 % โดยเติมน้ำพอประมาณ ใช้มือกำขี้เลื่อยบีบให้แน่น ถ้ามีน้ำซึมที่ง่ามมือแสดงว่าเปียกเกินไป (ให้เติมขี้เลื่อยแห้งเพิ่ม) ถ้าไม่มีน้ำซึมให้แบมือออก ขี้เลื่อยจะรวมกันเป็นก้อนแล้วแตกออก 2-3 ส่วน ถือว่าใช้ได้แต่ถ้าแบมือแล้วขี้เลื่อยไม่รวมตัวเป็นก้อน แสดงว่าแห้งไป ให้เติมน้ำเล็กน้อย
>บรรจุขี้เลื่อยใส่ถุงพลาสติกทนร้อน น้ำหนัก 8-10 ขีด
>กระแทกกับพื้นพอประมาณ และทุบให้แน่นพอประมาณ 2 ใน 3 ของถุง หรือใช้เครื่องอัดก้อนเห็ด ใส่คอขวด ปิดฝาด้วยฝาจุกแบบประหยัด
>นำไปนึ่งฆ่าเชื้อที่ 100 องศาเซลเซียส 3 ชั่วโมง แล้วนำมาพักให้เย็นในที่สะอาด
>การใส่หัวเชื้อ
ลักษณะเชื้อเห็ดที่ดี
จะต้องไม่มีเชื้อราอื่นๆ เจือปน เช่น ราดำ ราเขียว ราส้ม ปนเปื้อน อยู่ในขวดเชื้อนั้น เพราะจะทำให้ถุงเพาะเชื้อเห็ดติดโรคราอื่นได้ โดยสังเกตเส้นใยของเชื้อเห็ดจะต้องมีเส้นใย สีขาวบริสุทธิ์และดินเต็มขวด
หัวเชื้อควรเลือกหัวเชื้อที่เจริญเต็มเมล็ดธัญพืชใหม่ๆเพราะเชื้อในระยะนี้กำลังแข็งแรงและเจริญเติบโตรวดเร็ว
สถานที่เขี่ยเชื้อเห็ด ควรเขี่ยในห้องที่สะอาดและสามารถป้องกันลมได้เพื่อช่วยลดเชื้อปลอมปน ทำให้เปอร์เซ็นต์ของก้อนเชื้อที่เสียต่ำลง
ในการเขี่ยเชื้อเห็ด ควรใช้ลวดแข็งๆ เผาไฟให้ร้อน ในถึงก้อนเชื้อประมาณ 15-20 เมล็ดแล้วปิดด้วยจุกสำลี เพื่อฆ่าเชื้อ แล้วกวนตีเมล็ดข้าวฟ่างให้ร่วน เพื่อสะดวกในการเทเมล็ดข้าวฟ่างลงในถึงก้อนเชื้อ
>ใส่หัวเชื้อเห็ดที่เลี้ยงบนเมล็ดข้าวฟ่างลงและปิดจุกไว้ตามเดิม
>การทำให้เกิดดอกดูแลรักษาเห็ดนางฟ้า
ก่อนการเปิดดอกควรนำก้อนเชื้อเห็ดมาวางไว้ประมาณ 3-4 วัน เห็ดนางฟ้าจะเปิดถุง โดยเอาจุกสำลีออก นำก้อนไปเรียงซ้อนกัน จะใช้ชั้นไม่ไผ่ตัว A หรือชั้นแขวนพลาสติกก็ได้ รดน้ำ รักษาความชื้นให้มากในโรงเรือนให้มากกว่า 70 % วันละ 2-6ครั้ง ขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศ โดยสเปรย์น้ำเป็นฝอย ระวังอย่ารดน้ำเข้าในถุง เพราะถุงจะเน่าและเสียเร็ว หลังจากบ่มเชื้อครบ
30-35 วัน นำก้อนเชื้อเข้าสู่โรงเรือนเปิดดอก โดยแกะกระดาษเขี่ยข้าวฟ่างและสำลีออกให้หมด ทำความสะอาดพื้นโรงเรือนรดน้ำให้ชุ่ม วันละ 3 เวลา คือ เช้า เที่ยง เย็น เห็ดจะออกดอก ได้ดี ตัดแต่งตีนเห็ดก่อนนำไปจำหน่ายให้แม่ค้าในชุมชน
เห็ดสามอย่าง
วิธีการปรุง
-
นำเห็ดที่รับประทานได้อย่างน้อย 3 ชนิด เช่น นางฟ้า หูหนู เห็ดเข็มทอง
-
ปรุงเป็นอาหาร เช่น ยำเห็ด ใส่ในต้มจืด แกงส้ม แกงเลียง
-
ต้มน้ำดื่ม สามารถผสมใบเตย มะตูม หรือน้ำตาลกรวดก็ได้
-
หลีกเลี่ยงการผัดกับน้ำมันพืช ถ้าต้องการผัด ให้ใช้กะทิแทน
เครื่องปรุง
-
เห็ดหูหนู 5 ดอก
-
เห็ดนางฟ้า 5 ดอก
-
เห็ดฟาง 5 ดอก
-
ต้นกระชายอ่อน 5 ต้น
-
แครอต 1/2 หัว
-
ข้าวโพดอ่อน 4 ฝัก
-
ถั่วแปบ 10 ฝัก
-
ยอดมะพร้าวอ่อน
-
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกชี้ฟ้า 4 เม็ด
-
ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะทั้งหมดนี่ประมาณเอาก็ได้ ใครชอบอะไร ก็ใส่มากหน่อย
วิธีปรุง
-
ตั้งกระทะเติมน้ำประมาณ 100 CC. แล้วหยอดน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
-
ใส่แครอต เห็ด กระชาย ข้าวโพด ถั่วแปบ คนให้เข้ากัน
-
พอน้ำเริ่มเดือด ส่วนประกอบเริ่มยุบตัว พลิกกลับให้สุกทั่วกัน
-
เติมซอสเห็ดหอม ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
-
เติมเกลือ ประมาณ 0.5 ช้อนโต๊ะ
-
เติมน้ำตาล ชิม ปรุงรส แล้วตักใส่จาน (อร่อยอย่าบอกใคร)